จากที่ได้รวบรวม 10 ที่เที่ยววิวสวยรอบหัวหินเอาไว้ รีวิวก็นี้จะมาขยายเรื่องหาดหัวหินเพิ่มอีกหน่อยค่ะ รวมถึงแนะนำรีสอร์ทที่ตั้งอยู่กลางโค้งหาดอย่าง InterContinental Huahin Resort ด้วย
พริมเคยรวมความโดดเด่นของหาดหัวหินไว้ใน เปรียบเทียบหัวหิน 12 เดือน นี้แล้ว มันช่วยภาพกว้างให้ได้ค่ะว่าถ้าอยากเห็นทะเลแบบไหน ควรไปเดือนไหนดี ซึ่งการจะได้รูปวิวสวยๆ จากหาดหัวหิน เรื่องเดือนและฤดูไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ อยู่ที่ว่าใครชอบทะเลแบบไหนมากกว่า อย่างพริมชอบเดือน 6-7-8 เพราะรู้สึกว่าสีของน้ำทะเลในหน้าฝนสวยแปลกตาดี รูปทะเลทั้งหมดในรีวิวนี้จึงเกิดขึ้นในหน้าฝนเช่นกันค่ะ จากช่วงตอนกลางของหาดหมดเลย
tips : สำหรับการถ่ายหาดหัวหินที่เป็นหาดพระอาทิตย์ขึ้น พริมว่าถ่ายใครตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นไม่ทัน ก็ให้รอตอนบ่ายอีกทีค่ะ เพราะว่าพระอาทิตย์ตอนบ่ายจะย้ายไปอยู่ทิศตรงข้ามกับทะเลแล้วช่วงส่องให้น้ำทะเลมีสีสันมากขึ้น และตอนบ่ายยังเป็นช่วงน้ำลงที่ทำให้เห็นหาดกว้างๆ วันไหนแดดแรง ทรายก็จะดูขาวเป็นพิเศษ ที่สำคัญ หาดหัวหินหน้าฝนในตอนบ่ายแทบจะร้างผู้คน ถ่ายซูมให้เห็นคนตัวเล็กๆ ไกลๆ เทียบกับทะเลยิ่งใหญ่ก็สวยดี
โดยในรีวิวนี้จะมี 2 ส่วน
InterContinental Huahin : บีชรีสอร์ทที่ทั้งอบอุ่น หรูหรา และร่มรื่นในคราวเดียว
Azure Beach Dining & Bar : ห้องอาหารและบาร์ริมทะเลสุดโรแมนติก
1️⃣ InterContinental Huahin Resort
เห็นสะพานลอยที่ตีระแนงไม้ดูหรูและคลาสสิคกว่าใครในหัวหินเมื่อไหร่ นั่นแหละค่ะคือ อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท เชื่อว่าถ้าสวยยัน façade และสะพานลอยขนาดนี้ ข้างในยังไงก็ต้องสวย
บรรยากาศการตกแต่ง
เมื่อเข้ามาจริงๆ ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือความหรูหราตามคาด แต่ที่เกินคาดคือมันเป็นความหรูหราที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ นอกจากวัสดุตกแต่งที่เป็นไม้ ก็น่าจะเพราะมันมีกลิ่นอายที่คลาสสิคของอดีตเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงเกิดไม่ทันยุคนั้น แต่จากที่เคยเห็นภาพหัวหินสมัยก่อน เห็นมฤคทายวัน ก็ทำให้รู้สึกว่าที่นี่ให้เสี้ยวบรรยากาศคล้ายโคโลเนียล แต่เป็นโคโลเนียลที่ผ่านการออกแบบตกแต่งให้ดูหรูและร่วมสมัย
ที่นี่ยังเป็นบีชรีชสอร์ที่จัดสวนปลูกต้นไม้ไว้อย่างร่มรื่น แต่ละต้นก็สูงใหญ่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็จะเห็นสีเขียวๆ ติดมาเสมอ
เชคอิน
ถึงจะเป็นบ่ายวันธรรมดาในหน้าฝน แต่เคาน์เตอร์เชคอินทั้งสี่โต๊ะและเก้าอี้ภายในล้อบบี้ทั้งหมดก็ถูกจับจองหมดเลย ยืนรอซักพักจนเมื่อถึงตาตัวเองจึงเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงช้า เพราะพนักงานที่ช่วยทำการเชคอินให้จะเป็นคนเดินพาแขกไปส่งถึงห้องพักให้เอง ระหว่างทางก็ชวนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และช่วยแนะนำมุมต่างๆ ไปในตัว
** พักอินเตอร์คอนหัวหินก็สามารถเข้าสวนน้ำวานานาวาฟรีเช่นกันนะคะ แบบอันลิมิทตลอดทั้งวันเชคอินและวันเชคเอาท์เลย ถูกใจมาก
ห้องพัก
ทางเดินไปห้องพักเป็นระเบียงสีขาวที่เชื่อมเข้าแต่ละห้อง ซึ่งแต่ละห้องวางเล่นระดับเหลื่อมกันไปตามความโค้งของอาคาร ทำให้ทุกห้องนอกจากจะมีระเบียงส่วนตัวที่ไม่มีแขกห้องไหนชะโงกหน้ามาเห็นเราได้แล้ว ตอนแตะคีย์การ์ดเข้าห้องก็ยังเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะทางเข้าแต่ละห้องที่หลบมุมกัน ทำให้คนที่เดินบนระเบียงไม่สามารถเห็นได้ว่าใครกำลังจะเข้าห้องไหน โดยมีต้นไม้แทรกระหว่างแต่ละห้องด้วย
พริมพักชั้น 2 ทำให้ได้ระเบียงที่เป็นส่วนตัวและกว้างขวาง มีตั่งให้นั่งเล่น แต่ถ้าใครพักชั้นล่าง ก็จะได้มุมสระว่ายน้ำและมุมอาบแดดส่วนตัวแทน ซึ่งทั้งสองชั้นมองไปไม่ถึงทะเลนะคะ มีแต่ชั้นสามน่าจะเห็นอยู่
ห้องที่พริมพักเป็นห้องพรีเมียร์ของตึกบีชวิง มีห้องนอนและห้องน้ำที่เปิดทะลุถึงกันได้ด้วยบานเฟี้ยมสีขาว ขนาดของห้องน้ำทั้งแบบ shower รวมอ่างใหญ่ๆ ที่ตั้งตรงกลางด้วยแล้วก็ใหญ่เกือบๆ จะเท่าส่วนของห้องนอนเลยค่ะ แล้ว amenities ที่จัดไว้ให้ภายในห้องน้ำก็เป็นของ L'Occitane ทั้งหมดเลย คอลเลคชั่นกรีนทีด้วย ––––– ชอบเป็นการส่วนตัว คือกรีนทีเป็นคอลเลคชั่นเดียวของแบรนด์เลยที่พริมว่าหอม กลิ่นชาเขียวมันสดชื่นสบายๆ ไม่หวานเลี่ยนค่ะ
เตียงขาวหนานุ่มที่หันหน้าออกรับวิวภายนอกค่ะ เมื่อถึงตอนเย็นจะมีพนักงานเข้ามาปูเตียงจัดหมอนให้ใหม่แบบพร้อมนอน หมอนอ้วนๆ ที่จัดมาให้แบบเต็มเตียง ถ้าไม่ชอบก็สามารถเปลี่ยนได้ค่ะ
** ทางโรงแรมมีหมอนให้เลือกถึง 7 แบบ เช่น หมอนบัควีทช่วยนวดผ่อนคลาย
หมอนยางพาราที่รองรับตามรูปศีรษะ
หรือหมอนขนอ่อนห่านที่เหมาะกับคนชอบนอนตะแคงข้าง
ชอบมากที่สุดในห้องน่าจะเป็น lighting ค่ะ มีไฟมีโคมที่ส่องเฉพาะจุดเยอะ เมื่อรวมกับสีไม้ในห้อง มองแล้วอบอุ่นสบายตาดี มันรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย แต่ดีเทลก็ยังหรูอยู่
สระว่ายน้ำและทะเล
ชอบการแบ่งโซนของที่นี่ด้วย ถึงพื้นที่ของเค้าจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่รู้สึกว่าแบ่งโซนชัดเจนดี อย่างออกจากห้องพักหรือห้องอาหารมา จะมีสนามหญ้าคั่นก่อนถึงสระว่ายน้ำและมีซุ้มลีลาวดีที่ร่มรื่นขนาบข้าง ทำให้ไม่มีใครไปเดินตากแดดบนสนามหญ้า แต่เลือกเดินลอดอุโมงค์ต้นไม้ที่ร่มรื่นกันหมด มองไปทีไรสนามหญ้าจึงดูโล่งสบายตา และเมื่อเดินลอดอุโมงค์ต้นไม้ทึมๆ ออกมาก็จะเจอสระว่ายน้ำและทะเลที่สดใส พริมว่ามันดูมีลำดับขั้นของการเข้าถึงที่ดี ไม่ได้เปิดโล่งเห็นทุกอย่างได้ในทุกจุด สถานที่แบบนี้จะน่าสนใจเมื่อได้ใช้งานจริงค่ะ
สระว่ายน้ำและตัวโรงแรมค่อนข้างเป็นส่วนตัวจากนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาตามชายหาด เพราะถูกยกพื้นให้สูง ทางเข้าจากชายหาดก็เป็นเพียงช่องเดียวแคบๆ เป็นบันไดแบบหักมุมอีก คนนอกไม่มีทางมองเข้ามาได้เลย แขกของโรงแรมจึงได้ความเป็นส่วนตัวเต็มที่ค่ะ
2️⃣ Azure Beach Dining & Bar
ห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ตั้งติดทั้งทะเลและสระว่ายน้ำ ตกแต่งขาวฟ้าตามความหมายของชื่อร้านและให้บรรยากาศแบบทะเลที่สบายๆ แต่ด้วย lighting มันก็ดูโรแมนติกอยู่นะคะ
พนักงานยิ้มแย้มบริการดี ใส่ใจถามก่อนเลยว่าแพ้อะไรมั้ย จะได้ให้เชฟช่วยปรับให้
แล้วออเดิร์ฟก็ถูกยกมาเสิร์ฟในช่วงที่ท้องฟ้าหยุดเปลี่ยนสีแล้วกลายเป็นน้ำเงินเข้มพอดี
มันเป็นขนมปังสี่รสที่อบมาพร้อมกัน กินกับซัลซ่าและมะกอกบด แต่อย่ากินเพลิน
เพราะอาหารเค้าจานใหญ่นะคะ ตอนแรกแอบคิดว่าคงรสกลางๆ จืดๆ แบบเอาใจแขกต่างชาติ แต่กลับออกมาเข้มข้นหลายจานเลย เพิ่งมารู้ทีหลังว่าคะแนนของอาซัวร์ใน tripadvisor คือดีมากกก เป็นอันดับสามในหัวหินเลย ที่พริมชอบก็มี
🦀 Seafood Pot : ซุปมะเขือเทศซีฟู๊ดที่เสิร์ฟมาในหม้อสีคอปเปอร์ตัวนี้ปรุงออกมาได้เข้มข้น กลมกล่อม หอมกลิ่นซีฟู๊ดแบบเต็มๆในทุกคำ เพราะใส่มาทั้งกุ้ง ปู ปลา ปลาหมึก และสารพัดหอย ถึงปูที่มาพร้อมเปลือกจะแกะกินไม่ได้ แต่ตัวซุปอร่อยจนเผลอกินหมดหม้อเลย ไม่ต้องปรุงมะนาวหรือพริกและกระเทียมสดที่เสิร์ฟมาให้พร้อมกันเลยค่ะ
🍅 Pasta : อีกจานที่ชอบเป็นคล้ายๆ พาสต้าอองปาปีย้อท (en papillote) หรือพาสต้าที่อบในกระดาษไขเพื่อช่วยคงรสชาติที่เข้มข้น แต่เปลี่ยนจากการห่อกระดาษหรือฟอยล์ธรรมดาๆ มาห่อในกระดาษไขสีขาวที่รวบปลายขึ้นสูงแล้วเบิร์นไฟด้านบนมาเหมือนเป็นภูเขาไฟ เปิดกระดาษออกมาจะเป็นสปาเก็ตตี้ในซอสมะเขือเทศ เบซิล และพริก แทบจะเป็นรสเดียวกับซุปก็จริง แต่รสชาติอร่อย จัดจ้านเข้มข้นมาก เผ็ดเลยแหละ เป็นพาสต้าที่ไม่เลี่ยน ตัวซีฟู๊ดก็อัดมาแน่นจานดีค่ะ
ส่วนขนมมีให้เลือกสามอย่าง ได้ลองครบ แต่คิดว่าตัวที่เป็นโดมไวท์ช็อคโกแลตราดด้วยซอสเบอร์รี่อุ่นๆ จะอร่อยกว่าเพื่อน เพราะคอมบิเนชั่นไวท์ชอคเบอร์รี่นี่อยู่ด้วยกันทีไรก็อร่อย กะเทาะโดมออกมาจะเจอมูสเบอร์รี่กินกับผลไม้รสเปรี้ยวหวาน ซึ่งเข้ากันได้ดี
ด้านบนเปิดเป็นค็อกเทลบาร์ในตอนค่ำ พริมอิ่มอร่อยจากทั้งอาหารคาวหวานในห้องอาหาร Azure มากแล้วเลยไม่ได้ขึ้นมาลองอะไรบนนี้ต่อ มีแค่รูปถ่ายจากช่วงเย็นให้เห็นบรรยากาศสบายๆ ชวนผ่อนคลายของข้างบนนี้ค่ะ แต่ละโต๊ะเป็นส่วนตัวแยกจากกัน มองเห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำและวิวทะเล
👉🏼 แนะนำให้มาตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตกเลย รับลมเย็นๆ สบายๆ ก่อนเริ่มมื้อค่ำจะดีมากค่ะ
อาหารเช้า
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้ามีอาหารให้เลือกเยอะมาก สัญชาติหลักๆมาหมดค่ะ ทางเอเชียจะเยอะหน่อย เบเกอรี่เพสทรี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย โคลด์คัท ติ่มซำ ซูชิ ยันสเตชั่นก๋วยเตี๋ยวที่มีเครื่องให้เลือกคีบเองกว่ายี่สิบชนิด (ปกติพริมไม่ชอบกินเบค่อน แต่ที่นี่ทำได้กรุบกรอบ สีน้ำตาลสวย ไม่ไหม้ แถมตรงส่วนมันขาวๆละลายหายหมด)
น้ำผลไม้คั้นก็มีหลายรสพิเศษกว่าพวกแอปเปิ้ลส้ม ตบท้ายด้วยของหวานที่มีท้อปปิ้ง มีคอมโพท มีซอสผลไม้รสต่างๆ ละลานตา โดยรวมชอบบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของที่นี่ค่ะ ให้ความรู้สึกถึงวันพักผ่อนดี หลับสบายแล้วตื่นมามีอาหารเช้าดีๆ รอให้เลือกเพียบ
👉🏼 แนะนำให้ไปทานเช้าๆ นะคะ จะได้อิ่มอร่อยกันแบบสบายๆ เพราะถึงแม้เป็นวันกลางสัปดาห์แต่หลัง 8 โมงคนจะแน่นมาก อาหารพอทั่วถึงแน่นอน แต่มันจะวุ่นวายและทำให้พนักงานดูแลไม่ทั่วถึงเท่าไหร่
จากที่ได้ลองพักหนึ่งคืน พริมว่าอินเตอร์คอนติเนนตัลหัวหิน เหมาะสุดสำหรับ :
คนที่อยากพักผ่อนในบรรยากาศผ่อนคลาย อบอุ่น แต่ไม่ทิ้งความหรูหรา สะดวกสบาย สวยงามตามมาตรฐานอินเตอร์คอน คือเชคอินแล้วไม่ต้องห่วงอะไรอีกเลย ถ้าไม่เคยมาก่อนก็น่ามาลองความสบายแบบนี้ดูซักครั้ง
เหมาะกับคู่รักหรือครอบครัวที่ต้องการความประทับใจที่มากกว่าแค่ทะเล ซึ่งห้องพักสวยๆ หรือร้านอาหารเย็นบรรยากาศดีอย่าง Azure มีส่วนช่วยหรือเอื้อให้หัวหินทริปนั้นกลายเป็นประสบการณ์ดีๆ เป็นทริปในความทรงจำ
ทำเลที่ตั้ง ★★★★★
การตกแต่ง ★★★★★
ความสะดวกสบาย ★★★★★
ความสะอาด ★★★★
การบริการ ★★★★
อาหารเช้า ★★★★
Comments